จัดอันดับ 5 ทีมเต็ง ที่จะคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาล 2022-2023

Rate this post

ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ผลิตความบันเทิงที่น่าตื่นเต้นอีกฤดูกาลหนึ่ง และยังนับได้ว่าเป็นการแข่งขันระดับสโมสรที่ยอดเยี่ยม ของฟุตบอลโลกด้วย และปีที่แล้ว เรอัล มาดริด กลายเป็นแชมป์ยุโรปอีกครั้ง และนี้เป็นครั้งที่ 14 ของสโมสร หลังจากเอาชนะลิเวอร์พูล ที่ปารีสไปครอง.

โดยฤดูกาลนี้ 2022-23 ทางยูฟ่าให้สัญญาว่า จะเป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่น่าดึงดูดใจ ของการแข่งขันในแชมเปี้ยนส์ลีก เนื่องจากในแต่ละทีมที่ลงแข่งในลีกนี้ เรียกได้ว่าเป็นทีมที่เก่งระดับโลกทั้งนั้น.

ดังนั้น วันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านมาชมกันว่า มีสโมสรใดบ้างใน 5 ทีม ที่เป็นตัวเต็งที่จะสามารถคว้าแชมเปี้ยนลีกมาครอง ของปี 2022-2023 นี้กัน.

 

  1. เรอัล มาดริด (Real Madrid)

 เรอัลมาดริด, ราชันชุดขาว หรือ รีลมาดริด เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศสเปน ตั้งอยู่ที่กรุงมาดริดเมืองหลวงของประเทศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1902 เล่นในลาลีกาและเป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการฟุตบอลศตวรรษที่ 20 โดยสามารถคว้าแชมป์ลาลีกาได้ทั้งสิ้น 31 สมัย ถ้วยโกปาเดลเรย์ 17 ครั้ง และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 9 สมัยซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของรายการ นอกจากนั้น เรอัล มาดริด ยังได้เป็นสมาชิกของกลุ่มจี-14 ซึ่งเป็นกลุ่มของสโมสรฟุตบอลชั้นนำของยุโรปอีกด้วย.

สนามเหย้าของสโมสรคือสนาม ซานเตียโก เบร์นาเบว อันมีชื่อเสียงแห่งกรุงมาดริด ราชันชุดขาว นั้นเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์รายการแข่งขันของยูฟ่า ด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 9 สมัยและยูฟ่าคัพ 2 สมัย ซึ่งมากกว่าสโมสรอื่น ๆ ทุกสโมสร  มีเพียงโทรฟียุโรปเดียวที่เรอัลมาดริดยังไม่เคยได้ นั่นคือ ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ.

เรอัล มาดริด ถือเป็นทีมเต็งอันดับ 5 ในรายการนี้ แม้จะเข้าสู่ฤดูกาลที่แล้วจะได้แชมป์ ก็จริงแต่ว่าปีนี้มีทีมที่ทำฟอร์มได้ดีกว่ามาก การผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของเรอัล รวมถึงการคัมแบ็กที่น่าทึ่งอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สร้างฟอร์มได้ดีเยี่ยมตลอดปี แน่นนอนว่าศึกนี้ยังไม่จบและเราต้องมารอดูกันต่อไปว่าเรอัลจะมีไม้เด็ดอื่นๆหรือไม่.

 

  1. บาเยิร์น มิวนิค (Bayern Munich)

สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งประเทศเยอรมัน และเป็นสโมสรที่สามารถครองแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมันได้มากที่สุดซึ่งเป็นทีมที่มีฐานแฟนบอลจำนวนมาก ไม่ใช่เพียงแต่ภายในประเทศเท่านั้น แต่ บาเยิร์น มิวนิค มีแฟนบอลทั่วโลก สโมสรแห่งนี้ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1900 โดยใช้สนามเหย้าหลักของสโมสรชื่อ “อัลลิอันซ์ อารีน่า” โดยมีความจุที่นั่งสำหรับแฟนบอลมากถึง 75,000 ที่นั่ง  ซึ่งบาเยิร์น มิวนิค ได้แชมป์ลีกสูงสุดในฤดูกาลแรกที่ลงเล่นจากนั้นก็ต้องเผชิญกับสงครามโลกทำให้ฟุตบอลต้องหยุดเล่นไป.

ความรุ่งเรืองของบาเยิร์น มิวนิคต่อเนื่องมาจนถึงฤดูกาล 1974 – 1976 ด้วยการประกาศชัยชนะเลิศในการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก หรือ UCL ในปัจจุบัน โดยเป็นสโมสรทีมแรกที่สามารถคว้าแชมป์ยุโรปได้ 3 สมัยซ้อนติดต่อกัน และได้แชมป์ยุโรปสมัยที่ 4 ในยุคของ ออทมาร์ ฮิตซ์เฟลต์  และใน ปี ค.ศ. 2002-2003 บาเยิร์น มิวนิค ก็สามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีกาเยอรมัน สมัยที่ 4 ติดต่อกัน.

บาเยิร์น มิวนิค เผชิญกับผลงานที่น่าผิดหวังในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลที่แล้ว โดยการผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศอย่างเซอร์ไพรส์ของ บียาร์เรอัล ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย.

แชมป์เยอรมัน ยังคงครองตําแหน่งในบุนเดสลีกาและคว้าแชมป์สมัยที่ 10 ติดต่อกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่การขาดความสามารถในการแข่งขันในประเทศเป็นอุปสรรคต่อโอกาสในยุโรปของพวกเขาหรือไม่นั้นอาจจะต้องรอดูกันต่อไป.

จูเลียน นาเกลส์มันน์ ประสบปัญหากับการสร้างทีมใหม่โดยมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่อยากลาออกจากสโมสรในช่วงซัมเมอร์นี้ และการหาคนมาแทนที่กองหน้า ที่ทําประตูได้มากกว่า 40 ประตูใน 7 ฤดูกาลติดต่อกันอย่าง โรเบิร์ต นั้นไม่ง่ายจริงๆ.

 

  1. ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (Paris Saint Germain)

สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง หรือเรียกอย่างย่อว่า เปแอ็สเฌ (ฝรั่งเศส: PSG) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สโมสรก่อตั้งเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1970 สโมสรเล่นอยู่ในลีกสูงสุดของฝรั่งเศส ในลีกเอิง มีสถิติการครองแชมป์ ชนะในลีก 2 ครั้ง ชนะในเฟรนช์คัพ 8 ครั้ง ชนะในลีกคัป 3 ครั้งและชนะในแชมเปียนส์โทรฟี 2 ครั้ง สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง เป็นหนึ่งในสองสโมสรของฝรั่งเศสที่สามารถชนะเลิศในถ้วยยุโรปได้ (อีกสโมสรคือ ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์) โดยชนะในยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ ปี ค.ศ. 1996 ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งยังติดอันดับทีมแห่งปีของโลกจากการจัดอันดับของ IFFHS ในปี ค.ศ. 1994 และติดอันดับ 1 ของทีมยูฟ่าในปี ค.ศ. 1998 ปัจจุบันติดอยู่ในอันดับ 15 จากอันดับของ IFFHS และติดอันดับ 45 จากอันดับของยูฟ่า และสนามกีฬาเหย้าของสโมสรคือสนามปาร์กเดแพร็งส์ มีความจุ 48,713 ที่นั่ง เป็นสนามกีฬาเหย้าตั้งแต่ปี ค.ศ. 1974.

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้รับเลือกให้เป็นแชมป์ในฐานะคู่แข่งที่มีศักยภาพเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยมีแรงผลักดันในการสรรหานักเตะของสโมสร รวมถึงการมาถึงของ ลิโอเนล เมสซี่ จากบาร์เซโลน่า ถือเป็นก้าวสุดท้ายสู่ความสําเร็จในยุโรปของมโมสร แต่ เปแอสเช กลับล้มเหลวในรอบ 16 ทีมสุดท้ายหลังซัดไป 2 ประตูในเกมที่ เรอัล มาดริด เสีย 2 ประตู  ปีนี้ความกดดันของชาวปารีสที่จะต้องกลับมาลงสนามอีกครั้งในฤดูกาล 2022/23.

การตัดสินใจของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่จะปฏิเสธ เรอัล มาดริด เข้าร่วมทีมนั้นถือเป็นการเพิ่มโอกาสของเปแอสเชอย่างมากในการชนะ โดยดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส จบด้วยการเป็นผู้ทําประตูสูงสุดของลีกเอิงเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน และเขาถือว่าเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ทั้งเก่งและรวดเร็วเป็นอันต้นๆของโลก ณ ปัจจุบันนี้ นี่อาจเปลี่ยนแปลงการทำคะแนนไปในทางที่ดีจนอาจจะครองแชมป์ในปีนี้ของทีมก็ได้.

 

  1. ลิเวอร์พูล (Liverpool)

 สโมสรลิเวอร์พูลก่อตั้งเมื่อ ปี 1892 และก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรแนวหน้าของอังกฤษอย่างรวดเร็วจนประสบความสำเร็จ เป็นแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศครั้งแรกใน ฤดูกาล ปี 1900-01 จนถึงแชมป์ลีกสูงสุดครั้งที่ 5 คือ ฤดูกาล ปี1946-47.

อย่างไรก็ดี ทางสโมสรก็มีช่วงที่ตกต่ำ และ ช่วงที่ครองแชมป์มาได้หลายสมัย จนกระทั้ง บิล แชงก์ลี คว้าแชมป์เอฟเอคัพเป็นถ้วยแรกของสโมสร ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จในฤดูกาล ปี 1964-65 และคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 อีกครั้งในฤดูกาลต่อมา ปี 1965-66.

ในปีที่แล้ว ลิเวอร์พูล พลาดลงเล่นในถ้วยยุโรป ครั้งที่ 7 หลังจากแพ้ เรอัล มาดริด 1-0 ที่ปารีส โดยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 5 ฤดูกาลภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์.

ในปีนี้ ลิเวอร์พูลมีสถิติที่ดี ที่พิสูจน์ความพัฒนาด้านทักษะในแคมเปญแชมเปี้ยนส์ลีกล่าสุด ตั้งแต่ คล็อปป์ ได้ย้ายมา ก็เสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมและหงส์แดงอย่างมาก รวมทั้งการเซ็นสัญญากับ ดาร์วิน นูเนซ จากเบนฟิก้า ด้วยค่าตัวที่อาจสูงถึงสถิติสโมสร 85 ล้านปอนด์ ก็อาจจะเป็นทางใหม่ที่จะทำให้สโมสรได้แชมป์ ชาวอุรุกวัยผู้นี้ ยิงไป 6 ประตู ในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลที่แล้ว เขาเป็นตัวรุกที่เก่งกาจ รวมถึงในเกมที่ เบนฟิก้า แพ้ลิเวอร์พูล ในรอบก่อนรองชนะเลิศด้วย นั่นก็ได้แสดงให้เห็นว่าการได้ นูเนซ มาอาจทำให้สโมสรได้เปรียบมากขึ้น.

 

        1.แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City)

 สโมสรได้มีการเริ่มก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ ปี 1880 นับได้ว่าเป็นสโมสรที่เก่าแก่ที่สุด และ ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกด้วย ชื่อเดิมว่า เซนต์มาร์ก (เวสต์กอร์ดอน ) จนกระทั่งเมื่อปี 1887 ได้มีการถูกเปลี่ยนโดยมีชื่อว่าสโมสรฟุตบอลสมาพันธ์อาร์วิก และในปี 1894 จึงได้มีการใช้ชื่อ แมนเชสเตอร์ซิตี้ จนมาถึงในปัจจุบันนี้.

นับตั้งแต่ในช่วงปี 2011-12 ก็ถือได้ว่าสโมสร แมนซิตี้ ก็ทำผลงานออกมาได้ดีเยี่ยมมาตลอด ถึงขั้นที่สามารถขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 1 ของตารางคะแนนและสามารถรั้งอันดับนี้มาได้โดยตลอด ถึงแม้ว่าจะมีบางช่วงที่ แมนยู จะขึ้นแซงได้บ้าง จนมาถึงการแข่งขันในนัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 13 ปี 2012 ที่ทั้งสองทีมนี้มีคะแนนเท่ากันนั่นก็คือ 86 คะแนน แต่ถ้าดูจากผลต่างของประตูได้เสียทางฝั่งของ แมนซิตี้ ที่นับได้ว่าดีกว่าถึง 8 ลูก.

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเริ่มต้นฤดูกาลแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้งในฐานะทีมโปรดของทัวร์นาเมนต์ ในฤดูกาล 2022-23 เนื่องจากการคัมแบ็ก รอบรองชนะเลิศอันน่าทึ่งของเรอัล มาดริด ทําให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศติดต่อกันได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่แน่นอนว่าทางสโมสรเอง ได้มีการเพิ่มขุมกําลังที่น่าเกรงขาม ด้วยการเซ็นสัญญากับ เอริง ฮาแลนด์ จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ฮาแลนด์ เป็นนักฟุตบอลที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ยิงได้ถึง 20 ประตู ในแชมเปี้ยนส์ลีก และมีสถิติที่น่าทึ่งถึง 23 ประตูจาก 19 เกมในบรรดายอดทีมชั้นนําของยุโรป และการมาของเขา อาจเป็นกุญแจสําคัญในโอกาสของแมนซิตี้ ที่จะคว้าแชมป์ได้อย่างแน่นอน.

 

Last update: : สิงหาคม 25, 2022

Category: News